Human Augmented AI เป็นการผสานความสามารถของ AI เข้ากับคน ช่วยทำให้ความสามารถของคนเรา เพิ่มอีกเป็น 10 เป็น 100 เท่า (เหนือกว่า Assistant AI ไปอีกระดับ)
ช่วยปลดปล่อยจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ให้กว้างไกลขึ้น
Creative Process ต่างๆ จะสเกลได้ และง่ายขึ้น
เช่น การสร้าง multiple variations ของงานสร้างสรรค์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง วิดีโอ รูปภาพ บทประพันธ์
ช่วยให้เราสามารถ explore ไอเดียใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น โดยไม่ต้องลงมือทำชิ้นงานจริงๆ ที่อาจต้องมีค่าใช้จ่าย
แถมยังช่วยสนับสนุนความคิดที่เราอาจจะคิดไม่ถึง ให้กว้างขึ้น ลึกขึ้นได้
การมีตัวช่วยที่เป็น AI จะทำให้การเชื่อมโยงโดเมนที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างความหลากหลายของความคิดสร้างสรรค์
และช่วย evaluate ไอเดียต่างๆ เช่น การเขียนบทละครที่มันเชื่อมโยงหลายโดเมนเข้าด้วยกัน (ตย.บุพเพสันนิวาส)
สตูดิโอค่ายหนังยักษ์ใหญ่ในฮอลลีวูดใช้ AI ช่วยเรื่องเขียนบท ทำ storyboard กันเป็นเรื่องปกติมากๆ
เราอาจจะรู้ว่า เกาหลี เป็น 1 ในผู้นำด้าน Soft Power ของโลก
แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า เกาหลียังเป็น 1 ในประเทศผู้นำโลกด้าน AI เช่นกัน
เกาหลี ถูกจัด Global AI Index อันดับ 6 ของโลก และมีจำนวนสิทธิบัตรด้าน AI เยอะเป็นอันดับ 3 ของโลก
ตามหลังแค่สหรัฐอเมริกากับจีนเท่านั้น
บริษัทเทคโนโลยีในเกาหลี อย่าง LG, KT, Naver, Kakao, Samsung ต่างจับมือกันเต็มที่ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้าน AI ไปแข่งขันระดับโลก
เดิมที เค้าทำไปเพื่อความอยู่รอดในโลกวันข้างหน้า เพราะรู้ว่า อนาคต โลกใบนี้กำลังแข่งขันและแพ้ชนะกันด้วยอะไร
การใช้โมเดลภาษา อย่าง GPT ไม่อาจช่วยให้ประเทศเค้า ได้เปรียบคนอื่นเท่าไหร่ เพราะมันเก่งอังกฤษ แต่อ่อนเกาหลี คนเกาหลีก็ขาด อาวุธดิจิทัลยุคใหม่ไว้ต่อสู้ในโลกยุคต่อไป
แต่ตอนนี้ ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เพราะเกมที่เค้าเล่นอยู่ (ทั้งระดับนโยบายรัฐกับความร่วมมือกับเอกชน) คือ การเป็นผู้นำในด้าน AI ของโลก แม้ว่าจะมาทีหลังอเมริกากับจีน แต่กลับมีพัฒนาการที่รวดเร็วจนแซงหน้าญี่ปุ่นได้ (แน่นอน ญี่ปุ่นไม่ยอม ไว้เล่าในโพสต์ต่อๆไป)
เกาหลีมีการทำ Hyperscale AI จากความร่วมมือของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในประเทศ
มีทำ AI Infratructure ตั้งแต่ Cloud AI, AI Chip & Semiconductor และต้องการผลักด้าน AI Infra เค้าให้เป็นผู้นำของโลก
เช่น KT (ชื่อเดิมคือ Korean Telecom) ก็ลงทุนในระบบ Cloud, AI Computing ในสเกลใหญ่ จะดันตัวเองขึ้นมาเป็นทางเลือกของ Amazon AWS และ Microsoft Azure
SK Telecom ก็เพิ่งประกาศ AI Pyramid Strategy หรือแผนการแข่งขันด้าน AI ในระดับโลกตั้งแต่การลงทุนด้าน Cloud , AI Semiconductor , พัฒนา LLM หรือโมเดลภาษาของตัวเอง ชื่อ A.X
แถมยังไปลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีด้าน AI ในอเมริกากว่า 7,200 ล้านดอลลาร์
หนึ่งในนััน คือ การลงทุนในบริษัท Anthropic คู่แข่ง OpenAI เป็นเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์ และมีการพัฒนาโมเดลภาษาร่วมกัน
และยังเตรียมยกระดับการดูทีวีสตรีมมิ่งของประเทศด้วย AI TV และ AI Curation ที่จะเลือกโปรแกรม รายการต่างๆ ให้คนดูแบบ personalized
AI ในเกาหลียังถูกนำไปใช้ ในเรื่อง Cultural analytics ที่ใช้ data มหาศาล (หนัง ละคร ดารา ภาพ และอื่นๆ) + AI และ Digital Image Processing เพื่อพัฒนาคอนเทนต์ไปแข่งกับฮอลลีวูด
ลงมาในสเกลเล็กลงหน่อย
เกาหลีมีบริษัท startup ด้าน AI กว่า 376 บริษัท ที่ระดมทุนมาสู้ในศึก AI นี้ ด้วยเม็ดเงินกว่า 12,500 ล้านดอลลาร์
นอกจากเอกชนแล้ว ภาครัฐก็ทุ่มมาทาง AI เต็มที่ เพราะมองว่า AI จะทำให้ตลาดแรงงานกระทบหนัก จากการถูก AI มาแทนที่
แต่ในขณะเดียวกัน AI ก็เข้ามาช่วยสร้างงานใหม่ๆเพิ่มขึ้น ในจำนวนพอๆกัน
แผน AI National Policy จึงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจากตั้งแต่ปี 2019 ทั้งนโยบายส่งเสริมเอกชน ทั้งการลงทุนจากภาครัฐ ช่วยเรื่อง R&D และการพัฒนาทักษะคน
มีนโยบายสร้างเด็กรุ่นใหม่ ให้กลายเป็น digital talents 1 ล้านคน และเตรียม upskill ด้าน AI ให้คนทั้งชาติ ในทุกช่วงอายุอีก
จะเห็นได้ว่าประเทศเกาหลีมีความ aggressive มากๆ ในการแข่งขันด้าน AI ระดับโลก
เราคงจะได้เห็นพัฒนาการที่รวดเร็วในด้านต่างๆ ของเกาหลีรวมถึงด้าน Soft Power ที่ใช้ทั้ง AI ทั้ง Big Data ทัังทำ Cultural Analytics
และมีการเตรียมตัวสู่ยุค Human Augmented AI จริงจัง